หน้าคมของร่างสูงซุกไซร้จากพวงแก้มขาวไปยังซอกคอหอมกรุ่น กลิ่นครีมอาบน้ำที่ยังคงหลงเหลืออยู่ช่วยเรียกอารมณ์ของร่างสูงได้เป็นอย่างดี
“ม..ไม่เอาคยูฮยอน” เสียงหวานร้องห้าม
“ทำไมล่ะ...ไม่ได้เจอนายมาตั้ง 3 วันคิดถึงจะแย่แล้ว” ว่าแล้วใบหน้าคมก็เลื่อนกลับไปทำหน้าที่ของมันต่ออย่างเชี่ยวชาญ
‘อะไรกัน! ทำดีกับไอหมาป่านี้มาทั้งวันก็เพื่อให้มันไม่มาทำแบบนี้กับเค้าไม่ใช่เหรอ ถ้าหยุดตานี่ไม่ได้ที่ทนทำมาทั้งวันก็หมดความหมายน่ะสิ ถ้าจะเป็นอย่างนี้จริงๆก็ต้องมีอะไรมาแลกเปลี่ยนกันหน่อย’
สมองอันชาญฉลาดของนักเรียนทุนอย่างซองมินเริ่มใช้ความคิดอย่างรวดเร็ว และแล้ว...แขนเรียวของคนตัวเล็กก็ยกขึ้นโอบรอบคอของร่างสูงที่อยู่ด้านบน ทำให้คยูฮยอนแปลกใจเป็นอย่างมาก
“ฉันยอกนายก็ได้...แต่เราต้องมีข้อแลกเปลี่ยนกันหน่อยน้า” ร่างเล็กเริ่มออดอ้อนร่างสูง
“แล้วนายอยากได้อะไรล่ะ แต่ถ้านายของเวอร์ไปฉันก็ให้ไม่ได้นะ”ถ้าสิ่งที่คนตรงหน้าขอมามันไม่เกินความสามารถเค้าก็ยินดีจะให้
‘ได้ผล’ ไม่คิดเลยว่าร่างสูงจะติดกับด้วยเล่ห์กลเพียงแค่นี้ อาจจะเป็นเพราะใจของร่างสูงมันอยากจะทำบางสิ่งบาสงอย่างแล้วก็ได้
แขนเล็กรั้งคอของร่างสูงลงมาหาคอกลีบปากเรียวประทับไปยังแก้มของใบหน้าคมปากเลื่อนเลยขึ้นไปกระซิบข้างหู
“ฉันขอแค่ให้ฉันได้ออกไปไหมมาไหนเองตามใจชอบแค่นี้ได้มั้ย” ถ้าเค้าสามารถออกไปได้เรื่องที่จะหาทางหนีมันก็จะง่ายขึ้น
“แต่ถ้าฉันอนุญาตนายก็อาจจะหนีไปก็ได้นิ”
“โถ ฉันไม่หนีไปไหนหรอกน่า อยู่กับนายสบายจะตายไป งานก็ไม่ต้องทำ แถมทีเตียงนุ่มๆให้นอน อาหารยังได้กินฟรีอีก” ซองมินพยยามพูดหว่านล้อมให้ร่างสูงเปลี่ยนความคิดของตัวเองใหม่
คยูฮยอนหยุดการกระทำไปช่วงนึง ทำหน้าเหมือนกับว่ากำลังใช้ความคิดอยู่
“อืม...ก็ได้แต่นายต้องบอกฉันทุกครั้งนะว่าจะไปไหน”
“โอเค ฉันจะ...” พูดยังไม่ทันจะจบคยูฮยอนก็จัดการปิดกลีบปากบางด้วยปากของตน
“อื้อ....” ร่างบางท้วงเมื่อรู้สึกว่าลมหายใจของตนเริ่มติดขัด ทำให้คยูฮยอนต้องถอนริมฝีปากออกมาอย่างเสียดาย
แขนแกร่งทั้งสองข้างช้อนตัวร่างบางขึ้นมาอุ้มไดอย่างง่ายดาย ขายาวก้าวเข้าไปในห้องนอนของตน วางร่างบางลงบนเตียงนุ่มก่อนที่ใบหน้าคมเข้าไปอีกครั้งมอบจูบให้ร่างบางอย่างอ่อยอิง และเลือนไปซุกไซร้ซอกคอขาวขบเม้นสร้างรอยรัก
“อึก...อือ...” ร่างบางพยายามกลั้นเสียงไม่ให้เล็ดลอดออกจากปากของตน มือหนาไล้ไปตามแนวกระดุมของเสื้อเชิ้ตตัวบางที่เค้ายกให้ร่างบางใส่ชั่วคราว” กระดุมค่อยๆหลุดจากรังดุมทีละเม็ดๆในที่สุดอาภรณ์ที่ปกปิดร่างกายส่วนบนอยู่ก็หลุดออกจากเรือนร่างด้วยฝีมือของร่างสูง มือหนาเริ่มสะกิดยอดอกสีหวาน
“อ๊า...”ร่างเล็กหลุดเสียงร้องออกมาอย่างเสียวซ่าน คยูฮยอนประกบริมฝีปากเข้าไปอีกครั้งปลายลิ้นที่รุกเร้านั้นโลมเลียไปทั่วโพรงปากราวกับว่าเป็นสิ่งที่โหยหามานาน ลิ้นของผู้ที่ถูกรุกรานสนองกลับอย่างกล้าๆกลัวๆ และในที่สุดซองมินก็เคลิ้มไปกับสัมผัสที่ร่างสูงมอบให้
มือหนาลูบไล้เร้าอารมณ์ร่างเล็กต่อไปบีบคลำยอดอกทั้งสองข้างสลับไปมา
มือหนาไล้ไปยังส่วนอ่อนไหวของร่างกายที่มีกางเกงขาสั้นปกปิดอยู่ ร่างสูงกลับไม่ถอดกางเกงคนตรงหน้าแต่เลือกที่จะกุมอยู่อย่างนั้นก่อนขยับถูไปมา
“อ๊า....ยะ..อย่า กะ...แกล้งกัน..ส..สิ” ซองมินร้องออกมาอย่างยากเย็น
มือหนาหยุดการกระทำและจัดการปลดอาภรณ์ 2 ชิ้นสุดท้ายออก เรือนร่างเปลือยเปล่าที่เค้าเคยเห็นมาก่อนหน้านี้มันได้มาปรากฏอยู่ตรงหน้าเค้าอีกครั้ง ร่างสูงก้มลงไปโลมเลียแกนกายบางอย่างสนุกโดยไม่คิดถึงความรู้สึกของร่างบางเลยว่ามันทรมานขนาดไหน
เมื่อลิ้มรสชาติจนพอใจแล้วริมฝีปากหนาก็ละออกจากแกนกายสีหวาน นิ้วเรียวถูกส่งเข้าไปเบิกทาง ทำให้ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อย ปลายนิ้วควานไปทั่วช่องทางเพื่อหาจุดที่จะเรียกเสียงครางหวานๆได้ ปลายนิ้วนั้นกดลึกลงไปเรื่อยๆ
“อึ๊ก...อะ...” เสียงหวานดังขึ้น เมื่อนิ้วเรียวของร่างสูงกดไปโดนจุดกระสันของตน
“ตรงนี้เองหรอ...” ไม่พูดเปล่า ปลายนิ้วกดย้ำอยู่ตรงนั้น
“อ๊า...มะ..ไม่ไหว..แล้ว” คยูฮยอนรีบขยับปลายนิ้วออกและส่งแกนกายของตนเข้าไปแทนขยับสะโพกตามอารมณ์ของตน
“อ๊ะ..มัน...จะ..เจ็บ น้า..เบาๆ..หนะ..หน่อยสิ” ถึงจะไม่ใช่ครั้งแรกแต่ร่างบางยังคงรู้สึกเจ็บอยู่
“นายก็อย่าเกร็งสิ...”แต่ร่างสูงก็ลดแรงของสะโพกที่สอดใส่แกนกายของตน ตามคำขอของร่างบาง
เมื่อเห็นว่าร่างบางเริ่มชินกับสิ่งแปลกปลอมที่รุกรานเข้าแล้ว ร่างสูงก็เริ่มขยับรุกแรงขึ้นเรื่อยๆ
“อ๊ะ...อะ..คยู อา...มะ ไม่ไหว..แล้ว”
“ทนอีกนิด ซองมิน..”ร่างสูงว่าด้วยเสียงแหบพร่า
ไม่นานทั้งสองก็ปลดปล่อยสิ่งที่อยู่ภายในแกนกายออกมา
ร่างบางนอนนิ่ง หายใจหอบเพราะความเหนื่อยจากกิจกรรมที่พึ่งผ่านมา ไม่ถึง 5 นาที นัยน์ตากลมโตก็ปิดสนิท บ่งบอกว่าร่างเล็กนั้นเข้าสู่ห้วงนิทราเรียบร้อยแล้ว
คยูฮยอนลุกขึ้นยืนก่อนจะก้มลงหยิบเสื้อคลุมที่ถูกโยนไปอยู่ข้างเตียงมาใส่ ร่างสูงก้าวไปยังระเบียงห้องโดยไม่ลืมหยิบแก้วไวน์ที่เพิ่งรินไวน์ราคาแพงใส่ลงไป
คยูฮยอนยืนทอดสายตาไปยังท้องฟ้ามืดสนิท แก้วไวน์รสเลิศถูกส่งเข้าปาก
‘นานขนาดไหนแล้วที่ไม่มีคนมาดูแลเค้าดีขนาดนี้ ตั้งแต่ที่แม่เค้าเสียชีวิตไป พ่อของเค้าเองก็เปลี่ยนไปจากที่เคยดูแลเอาใจใส่เค้าอย่างดี เอาแต่ทำงานบังคับให้เค้าและพี่ชายเอาแต่เรียนๆๆและเรียน ความสัมพันธ์ที่เป็นพ่อลูกก็เหมือนจะเปลี่ยนไป กลายเป็นความสัมพันธ์แบบเจ้านายและลูกน้อง…’
และเสียงโทรศัพท์ก็ปลุกร่างสูงให้ออกจากห้วงความคิด
“สวัสดีครับ”
“คยู..ฮือๆๆ ออกมาหาฮานึลหน่อยได้มั้ย ขอร้องคยูออกมาหน่อยนะ ฮือๆๆ” เสียงสะอื้นดังมาจากปลายสาย