เช้าวันใหม่ของการรอคอยของร่างสูงก็มาถึงลีมูซีนคันหรูประจำตำแหน่งท่านประธานบริษัทได้เคลื่อนมาหยุดอยู่หน้าอพาตเม้นแห่งหนึ่ง
จากสภาพที่เห็นจากภายนอกนั้นไม่น่าเป็นที่ๆคนจะอยู่ได้ ตัวตึกทั้งตึกทำจากไม้ที่ดูแล้วน่าจะผ่านการใช้งานมาอย่างหนักไม่ต่ำกว่า 20 ปี ภาพตรงหน้านี้ทำให้ร่างสูงอดคิดไม่ได้ว่าซองมินทนอยู่ในสถานที่แห่งนี้ไปได้ยังไง
คยูฮยอนก้าวเท้าลงจากรถและเดินตรงไปยังประตูเมื่อร่างของเขาได้ก้าวเข้ามาในอพาตเม้นแห่งนี้ชายแก่ที่อยู่เค้าเตอร์ด้านขวามือก็เอ่ยขึ้นมา
“พ่อหนุ่มมาที่นี้มีธุระอะไรหรอ”
“ไม่ทราบว่าคุณลีซองมินอยู่ห้องครับ” สีหน้าของชายแก่ท่าทางใจดีคนนั้นก็มองหน้าร่างสูงอย่างพิจรณารอยยิ้มที่เคยปรากฎบนใบหน้านั้นได้หายไป
“รอเค้าลงมาก่อนละกันนะครับ” คนทุกคนที่จะมาหาคนที่อาศัยในอพาตเม้นแห่งนี้ไม่มีสิทธิ์ที่จะขึ้นไปหาผู้ที่อยู่บนห้องยกเว้นแต่จะบอกล้วงหน้าหรือเจ้าตัวจะลงมารับเอง ที่ทำอย่างนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของสถานที่แห่งนี้และผู้ที่อาศัยเอง
“ทำไมล่ะครับผมมีธุระสำคัญที่ต้องคุยกับเค้า” ร่างสูงพยยามถามถึงสาเหตุที่เค้าไม่สามารถขึ้นไปหาซองมินได้
“เพราะมันเป็นกฎน่ะครับ” ชายแก่เอ่ยพลางเงยหน้ามองคยูฮยอนตั้งแต่หัวจรดปลายเท้านัยน์ตาของชายชรามองผ่านร่างสูงไปยังชาย 2 คนที่ยืนอยู่เบื้องหลัง ลักษณะการแต่งตัวนั้นอย่างกับมาเฟีย แล้วอย่างนี้ใครจะปล่อยให้ร่างสูงตรงหน้าเดินเข้าไปในอพาตเม้นของเค้าได้ล่ะ ถ้าเกิดมีเรื่องขึ้นมาคัยจะรับผิดชอบ
“แล้วชั้นจะต้องทำยังไงล่ะถึงจะขึ้นไปได้ เจ้าของห้องงั้นหรอห่ะ” เมื่อพูดจบคยูฮยอนก็หยิบกระดาษขึ้นมาหนึ่งแผ่นและเซ็นชื่อลงไปในกระดาษแผ่นนั้น พร้อมกับยื่นให้ชายตรงหน้า
“ทีนี้อพาตเม้นนี้ก็เป็นของผมแล้ว” ร่างสูงก้าวขึ้นไปชั้นบนของอพาตเม้นที่เพิ่งกลายเป็นของตนทันที ทิ้งให้ชายแก่อึ้งอยู่กับจำนวนเงินมากมายเขียนอยู่บนเช็คในมือของตน...
เมื่อร่างสูงเดินเข้ามาถึงห้องของซองมิน มือหนาหมุนลูกบิดและดันประตูเข้าไปเป็นจังหวะเดียวกับร่างบางที่เปิดประตูออกมาพอดี ร่างทั้ง 2 ร่างชะงักเล็กน้อย ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากปากของทั้ง 2 มีแต่เสียงของลมที่พัดผ่านมาเท่านั้น
“นายขึ้นมาบนนี้ได้ยังไง ที่นี้มันเป็นที่ส่วนบุคคลนะ นายเข้ามาตามอำเภอใจอย่างนี้ได้ยังไง” ซองมินเปิดบทสนทนาขึ้นมาเป็นคนแรก
คนที่ลุงจะยอมให้ผ่านเข้ามาได้ถึงห้องของเค้ามีเพียงดงเฮที่เป็นเพื่อนสนิทของเค้าเท่านั้นแต่ทำไมคยูฮยอนถึงขึ้นมาถึงหน้าห้องเค้าได้ล่ะ
“แล้วทำไมเจ้าของที่นี่อย่างชั้นจะขึ้นมาไปได้ล่ะ” แต่คำตอบของคยูฮยอนก็ยังไม่สามารถทำให้ร่างบางเข้าใจได้
“นายหมายความว่าไง ชั้นไม่เข้าใจ”
“แค่นี่นายยังไม่เข้าใจอีกหรอ ฟังนะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปชั้นเจ้าของที่ และมันก็รวมไปถึงห้องของนายด้วย” เมื่อได้ฟังดังนั้นอาการของร่างบางก็เปลี่ยนไปจากเดิมมือเรียวที่อยู่ข้างลำตัวกำแน่น และ ริมฝีปากบางเม้มจนกลายเป็นเส้นตรง
“นี่! จะยืนกันอย่างนี้อีกนานมั้ย เวลาชั้นมีไม่มากนะ ตามชั้นมานี่” คยูฮยอนจับมือร่างบางให้ก้าวเท้าตามตนมา แต่ทว่าร่างบางกลับยืนนิ่งอยู่กับที่
“ชั้นบอกว่าให้ตามมาไง!!!” ร่างสูงตะโกนออกไปด้วยอารมณ์ที่โมโห และคำตอบที่ได้กลับมาคือ...
“นายก็คืนห้องของชั้นมาสิ! แค่นี้นายยังทำให้ชั้นเดือดร้อนไม่พอรึไง ไหนจะเรื่องหนี้ เรื่องงาน แล้วนายยังจะมาเอาห้องชั้นไปอีกหรอ” มันจะไม่เกินไปหน่อยหรือไง เอาทุกอย่างของเค้าไปแล้วยังจะเอาสมบัตืชิ้นสุดท้ายที่เค้ามีอยู่ไปอีก
“ ที่ทำหน้าเครียดก็เพราะกลัวไม่มีที่ซุกหัวนอนงั้นสิ นายไม่ต้องห่วงหรอก รับรองว่าที่อยู่ของนายมันดีกว่าไอรูหนูนี่เยอะ” คยูฮยอนตอบมา พร้อมกับดูถูกห้องของเค้าอีก ถึงห้องมันจะเล็กแต่เค้าก็มีความสุขที่ได้อยู่ที่นี่
“จะยืนบื้ออะไรอยู่อีกเล่า ตามชั้นมานี่” คยูฮยอนจงใจกระชากข้อมือของร่างบางเดินตามเขามา กว่าทั้ง 2 จะเดินไปถึงรถก็เสียเวลาไปเกือบ 20 นาที ถึงซองมินยอมตามมาป่านนี้พวกเค้าคงนั่งตากแอร์ อยู่บนรถนานแล้ว
และแล้วทั้ง 2 ก็มาถึงห้องทำงานของพวกเขา โต๊ะเลขาที่เคยอยู่หน้าห้อง ตอนนี่กลับถูกย้ายเข้าไปในห้องของประธานบริษัท แต่สิ่งที่ยังเหมือนเดิมคือเอกสารที่กองอยู่บนโต๊ะ และดูเหมือนว่ามันจะเยอะกว่าคราวที่แล้วที่เค้าเห็นด้วย
“แล้วชั้นต้องทำอะไรบ้างล่ะ” ซองมินถามขึ้น
“ก็เคลียร์เอกสารบนนายไง” คยูฮยอนตอบแต่สายตายังไม่ละมาจากแฟ้มสีดำตรงหน้า
“นายจะเงยหน้าขึ้นมาคุยกันดีๆได้มั้ย มารยาทน่ะมีมั้ย” การกระทำของร่างสูงทำให้ซองมินอารมณ์เสียขึ้นมาทันที แทนที่จะเงยหน้าขึ้นมาคุยกันดีทำไมต้องมองกระดาษทั้งๆที่คุยกับเค้าอยู่ด้วย
เมื่อได้ยินอย่างนั้นคยูฮยอนจึงลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ของตนก้าวเท้าไปหาร่างบางที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ มือหนาทั้ง 2 ข้างของร่างสูงจัดการคร่อนตัวร่างบางเอาไว้ทำให้ซองมินไม่สามารถจะหนีได้ ใบหน้าของคยูฮยอนเริ่มใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
“ต้องอย่างนี้ใช่มั้ยถึงจะมีมารยาท” ร่างสูงกระซิบข้างหูร่างบาง ทำเอาซองมินขนลุกซู่ เผลอผลักร่างสูงเข้าไปอย่างจัง
“55+ นายตลกเป็นบ้าเลย ทั้งๆที่ผ่านมาเยอะขนาดนั้นทำเป็นไม่เคย” คำพูดของร่างสูงทำเอาความร้อนแล่นสู่ใบหน้าของร่างบางทันที
“นายมาดูถูกชั้นอย่างนี้ได้ยังไง ชั้นไม่ใช่คนแบบนั้นนะ!!!” ซองมินโกรธมากที่ร่างสูงมาว่าเค้าแบบนี้
“พูกอย่างนี้แสดงว่านายกล้าพิสูจน์สินะ” คยูฮยอนกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ท้าทายพร้อมทั้งมองร่างบางตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
“ได้! ชั้นจะพิสูจน์ว่าชั้นบริสุทธิ์” ร่างบางตอบกลับไปโดยไม่คิด
และแล้วกระต่ายน้อยก็ติดกับหมาป่าเจ้าเล่ห์....
เมื่อจบคำตอบที่ออกมาจากปากของซองมิน ร่างสูงก็จัดการครอบครองกลีบปากบางทันที ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ด้วยความตกใจ มือเล็กพยายามทุบอกร่างสูง แต่ทว่าคยูฮยอนกลับใช้เพียงมือข้างเดียวในการรวบมือทั้ง 2 ข้างของซองมิน มืออีกข้างบีบคางร่างบางเพื่อให้ตนนั้นสอดลิ้นเข้าไปลิ้มรสชาติภายในโพรงปากสีหวานนั้น และไม่นานคยูฮยอนก็สามารถลิ้มรสชาติที่เค้าต้องการ
“ได้โปรด ยะ...อย่าทำผม” เสียงของร่างบางสั้นด้วยความกลัว
“อะไรกันแค่นี้ก็กลัวแล้วหรอ แต่ยังไงชั้นก็ต้องพิสูจน์นะ” ร่างสูงยังไม่หยุดการกระทำ ปากเรียวก้มลงไปจัดการกับปากอิ่มของร่างบางต่อซองมินเริ่มอ่อนระทวยไปกับรสจูบที่จาบจ้วงของร่างสูง สติเริ่มหลุดลอยไปทีละน้อย
ร่างสูงค่อยๆไล่ริมฝีปากลงมาดูดดื่มความหอมหวานบริเวณซอกคอของร่างบาง ก่อนจะสร้างรอยแดงเอาไว้ที่ซอกคอด้านขวา การกระทำของร่างสูงทำให้ซองมินรู้สึกตัว
‘เพี้ยย..’
ซองมินตวัดฝ่ามือไปปะทะกับใบหน้าของร่างสูงทันที เลือดสีแดงสดค่อยๆไหลลงมาจากมุมปาก
“นายกล้าตบชั้นหรอซองมิน ห๊ะ! ลีซองมิน นายอยากโดนดีใช่มั้ย ได้! เดี๋ยวชั้นจัดการให้นายแน่”
ทันทีที่ร่างสูงพูดจบ ซองมินก็ลากตัวไปยังห้องๆหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ กับห้องทำงาน เมื่อร่างสูงเปิดประตูเข้าไป สายตาของซองมินก็พบกลับห้องนอนขนาดใหญ่ เตียงขนาดคิงไซส์ ตั้งอยูกลางห้อง
“นายพาชั้นมาที่นี่ทำไม”
คยูฮยอนกระตุกยิ้มที่มุมปากโยนตัวร่างบางลงบนเตียง ตามด้วยร่างของตนที่ขึ้นไปคร่อมร่างบางเอาไว้
“คยูฮยอน..นายจะ.. .จะทำอะไร” ซองมินเอ่ยถามร้างสูงด้วยน้ำเสียงสั่นระริกๆ หวังว่าคยูฮยอนจะไม่คิดอะไรบ้าๆกับเขาหรอกนะ
“ก็รู้ๆอยู่ นายยังจะถามอีกหรอ” คยูฮยอนเริ่มกระชากเสื้อของร่างบางออก
“นายแน่ใจหรอ ชั้นเป็นผู้ชายนะ” ร่างเล็กพยายามเจรจากับบุคคลตรงหน้าเผื่อร่างสูงจะยอมปล่อยเค้าไปอย่างคราวที่แล้ว
“ผู้ชายแล้วทำไมล่ะ น่าตื่นเต้นดีออก อีกอย่างชั้นไม่ต้องมาคอยรับผิดชอบเพราะนายไม่มีวันท้องไงล่ะ”กระดูมเม็ดสุดท้ายที่หลุดออกมาจากแรงกระชากทันที เมื่อจบคำพูดของร่างสูง
ใบหน้าของคยูฮยอน เริ่มทำการโลมเลียร่างบาง ก่อนที่มือหนาจะเริ่ม ปลดเข็มขัด และปลดตะขอกางเกงอย่างชำนาญ
ร่างสูงนำเข็มขัดที่เพิ่งปลดมาจากเอวของร่างบางมามัดข้อมือร่างบางทั้ง 2 ไว้กับหัวเตียง
ลิ้นร้อนๆของร่างสูงไล่ไปตามแผ่นอกเนียนนุ่มน่าสัมผัสของร่างบาง และมาหยุดโลมเลียอยู่ที่ตุ่มไมสีชมพู
“อือ..ออ..อะยะ..อย่า” เสียงปฏิเสธของร่างบางไม่สามารถหยุดการกระทำของบุคคลตรงหน้าได้เลย
ตอนนี้ลิ้นร้อนของร่างสูงได้ไล่มาถึงท้องน้อย แต่ทว่าร่างสูงก็หยุดการกระทำ ลุกขึ้นเดินหายเข้าไปในประตู และกลับเข้ามาพร้อมกับขวดเล็กๆในมือ
คยูฮยอนจัดการเทของเหลวจากขวดนั้นบนนิ้วเรียวของตน แต่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ร่างบาง
“นะ..นาย จะทำอะไรน่ะ” ซองมินพยายามดิ้นเพื่อให้พันธนาการที่มัดตนอยู่หลุด แต่ยิ่งดิ้นมากเท่าไรเข็มขัดก็รัดข้อมือของเค้ามากเท่านั้น
“มะ..ไม่เอาน่ะ” ร่างสูงไม่สนใจ นิ้วเรียวถูกส่งลงไปในช่องทางแคบของซองมินทันที
“อ๊ะ..อาาา” ของเหลวที่ถูกส่งเข้าไปนั้น สร้างความปั่นป่วนภายในช่องท้องของร่างบางเป็นอย่างมาก ความเสียวซ่านเริ่มแผ่ไปทั่วท้องน้อย
ร่างสูงดันนิ้วเข้าลึกเข้าไปอีกเพื่อกระตุ้นอารมณ์ของร่างบาง นิ้วเรียวหมุนวนอยู่ของในอยู่ซักพัก ก่อนจะถอนนิ้วออก
ร่างสูงจัดแจงปลดพันธนาการที่รัดข้อมือของร่างบางออก ตอนนี้ซองมินได้แต่นอนอยู่เฉยๆ เรี่ยวแรงที่เคยมีนั้นกลับหายไปหมด
ร่างสูงจัดให้ร่างบางอยู่ในท่านอนคว่ำ ปลายลิ้นชื้นตวัดไปยังช่องทางด้านหลังจนเป็นที่พอใจ
และแก่นกายของร่างสูงก็ถูกส่งเข้าไปโดยที่ร่างบางไม่ทันตั้งตัว
“อึก..โอยย..คยู..ฮยอน..ชะ..ชั้นน..เจ็บบ” ร่างบางเผลอร้องออกมาเพราะความเจ็บ หยาดน้ำอุ่นๆเริ่มไหลออกมาจากดวงตา
แต่ร่างสูงกลับไม่สนใจเสียงหวานของร่างบางเลย คยูฮยอนยังกระแทกแกนกายไม่ยั่ง
“อ๊าาาา..อะ” ร่างสูงยังคงเคลื่อนกายอย่างดุเดือด พรมจูบไปทั่วซอกคอของร่างบาง ตรงข้ามกับผู้ถูกรุกราน ถึงเสียงครางจะดังมากขนาดไหนแต่น้ำตาก็ยังคงรินไหลออกมา
“อะ..อ้าส์”ร่างบางจิกหมอนแน่นเมื่อใกล้ถึงจุดสุดยอด
“อือ..จะออกแล้วว” ร่างสูงยิ่งกระแทกกายแรงขึ้น
“อ้า!” น้ำสีขุ่นขาวของร่างบางถูกปลดปล่อยออกมา...แต่...ร่างสูงยัง
คยูฮยอนกระแทกการอีกครั้ง... เสียงครางระงมของทั้งสองดังของทั้ง 2 ดังขึ้นอีกครั้งและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด...จนกว่าจะถึงรุ่งสางของวันใหม่